
เจตนา "ฆ่า" เขาดูกันอย่างไร
หลายๆ คนคงสงสัย อยู่ไม่น้อย ว่าการกระทำ ของคนๆ หนึ่งๆ นั้น ศาลหรือผู้ใช้กฎหมายรู้ได้อย่างไร ว่า เขามีเจตนา อย่างไรกันแน่ ทั้งๆ เรื่องของ เจตนานี้ เป็นเรื่องที่อยู่ภายในจิตใจ ผมขออธิบาย สั้นๆ แบบเข้าใจ ง่ายๆ อย่างนี้ครับ "กรรม เป็นเครื่อง ชี้เจตนา" ซึ่งหมายถึง การกระทำ ของคนๆ นั้นเอง นั่นหละ ที่บ่งบอกว่า ผู้กระทำเขา มีเจตนา อย่างไร
แนวทาง การวิเคราห์ ก็แบ่ง ออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ ครับ
คือ 1.ดูอาวุธ ที่ใช้กระทำผิด
2.ดูโอกาส ที่เขาสามารถเลือกกระทำ ผิดได้
3.ดูความรุนแรง ของบาดแผล
1.อาวุธที่ใช้ในการกระทำผิด
- วัตถุระเบิด ปืน หากใช้ในการกระทำผิด ถือว่ามีเจตนา "ฆ่า" ครับ เพราะวัตถุระเบิด อาวุธปืน ถือเป็น สิ่งที่มีความร้ายแรง สามารถทำอันตราย ได้ถึงชีวิต นักกฎหมายส่วนใหญ่ จึงมองว่า การใช้ อาวุธเหล่านี้ ถือว่ามีเจตนา"ฆ่า" ครับในเรื่องของ วัตถุระเบิด เราต้อง ดูต่อไปอีกน่ะครับว่า หากทางการพิสูจน์ เห็นได้ชัดว่า ผู้กระทำ ไม่มีเจตนาต่อชีวิต จริง ๆ อย่างเช่น มีเพียงดินปืน ไม่มีส่วนผสม ของสะเก็ดระเบิด อย่างนี้ ก็ถือว่า ไม่มีเจตนา"ฆ่า" ครับ คงมีเจตนา เพียงทำอันตรายต่อร่างกาย หรือทรัพย์สินเท่านั้น
ในเรื่อง ของอาวูธปืน หากใช้ใน ระยะใกล้ ยิงไปในส่วนที่ ไม่ใช่จุดสำคัญ ของร่างกาย เช่นนี้ ถือว่า ไม่มีเจตนา"ฆ่า" ครับ คงมีเจตนาทำร้ายร่างกายเท่านั้น ผมจะ อธิบายเพิ่มเติม ในเรื่องของโอกาส ที่เขาสามารถเลือกกระทำ ผิดได้ ครับ
-มีดดาบ ขนาดใหญ่ ขวาน จอบ เช่นนี้อาจมองไปได้ว่า มีเจตนา"ฆ่า" ครับ เพราะลักษณะ อาวุธ ที่ใช้ค่อนข้าง ร้ายแรง แต่ทั้งนี้ ต้องพิจารณา หลายๆ ส่วน ประกอบกันครับ ยังฟันธง ตอนนี้ไม่ได้
2.โอกาส ที่เขาสามารถเลือกกระทำ ผิดได้
การฆ่า คน ใช่ว่า จะทำโดย มีอาวุธ เท่านั้นน่ะครับ ฆ่า คน ด้วยมือเปล่า ก็ทำได้ หรือแม้แต่ อาวุธ ธรรมดา ซึ่งไม่ร้ายแรง อะไรมาก ก็อาจ ทำอันตราย ถึงตายได้ อย่างเช่น มีดปอกผลไม้ ที่มีความยาว ไม่มาก ซ่อมทานอาหาร มีดสำหรับตัดชิ้นสเต็ก เป็นต้น
โอกาส ที่ผู้กระทำผิดเลือกได้ว่า จะทำกับส่วนใดของผู้เสียหาย หรือเลือกได้ว่า จะทำซ้ำต่ออีกหรือไม่ เป็นเรื่อง ที่บ่งบอกเจตนา ได้ดีอย่างหนึ่่งครับ
อย่างเช่น พ่อเลี้ยง จับลูกเลี้ยง อุ้มโยน ลงกับพื้น ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า แถมยังกระทืบ ซ้ำ ทั้งๆ ที่เด็ก แน่นิ่งไปแล้ว อย่างนี้เห็นได้ชัดว่ามีเจตนา"ฆ่า"ครับ
หรืออีกกรณี ใช้อาวุธปืนยิงในระยะไกล ตอนกลางคืน ไม่มีแสงไฟ กระสุนปืน ถูกขา ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ อย่างนี้ ถือว่ามีเจตนาฆ่าครับ ต้องรับผิดฐานพยายามฆ่า ผู้อื่นโดยเจตนาครับ แม้ผู้กระทำผิดจะเถียงว่าต้องการจะยิงที่ขาจริงๆ มีเจตนาทำร้ายร่างกายเท่านั้น ขอรับโทษฐานทำร้ายร่างกาย เช่นนี้ฟังไม่ขึ้นครับ ศาล ไม่เชื่อครับ เพราะโอกาส ที่ผู้กระทำผิดเลือกทำได้นั้น แทบไม่มีเลย อยู่ไกล ประกอบกับเวลา กลางคืน แค่ลำพังมองศูนย์ปืน ให้เห็นยังยากเลยครับ แต่หากมีข้อเท็จจริงอย่างอื่นประกอบอีก ก็ดูเป็นกรณีๆ ไปน่ะครับ เช่น มีแสงไฟสว่าง คนยิง เป็นนักแม่นปืนทีมชาติ ผู้เสียหาย มีรูปร่างสูงใหญ่ มองเห็นได้ชัด ในระยะไกล แบบนี้ ก็ต้องนำมาพิจารณาครับ
อีกกรณีหนึ่ง คือ ยิงปืน ในระยะใกล้ ยิงถูกในอวัยวะ ที่ไม่สำคัญ และมีโอกาสยิงซ้ำได้ แต่ผู้ยิง ไม่ยิง เช่นนี้ ก็บ่งบอกเจตนาของผู้กระทำได้ชัดเจนครับ ว่าต้องการทำร้ายร่างกายเท่านั้น ถ้าต้องการถึงชีวิต คงยิงในจุดที่สำคัญไปแล้ว เพราะอยู่ในระยะใกล้ และอีกอย่าง ผู้ยิง ก็สามารถยิงซ้ำได้อีก แต่ไม่ยิง เช่นนี้มีความผิดฐาน ทำร้ายร่างกาย ครับ ไม่ใช่ ฐานพยายามฆ่า น่ะครับ
กรณีต่อสู้ทะเลาะวิวาท ต่างฝ่ายต่างมึนเมา ใช้อาวุมีดพกสั้นที่เตรียมมา แทงไปยังคู่กรณี จะแทงถูกตรงอวัยวะ ใดก็ไม่ได้สนใจ เพระอยู่ในช่วงชลมุน ชกต่อย เมื่อคู่กรณีล้มลง ก็รีบวิ่งหนีไป ไม่ได้แทงซ้ำอีก คู่กรณีถึงแก่ความตายที่โรงพยาบาล เช่นนี้ ถือว่า ไม่มีเจตนาฆ่าครับ คงรับผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาครับ (อ่านเพิ่มเติมได้ที่ การรับผิดทางอาญา intasit1984.blogspot.com)
3.ความรุนแรง ของบาดแผล
แม้อาวุธที่ใช้ อาจจะเป็นอาวุธที่ไม่อันตรายมาก หรือทำโดย ไม่มีอาวุธเลย ก็ตาม หากผลการตรวจพิสูจน์ บาดแผล ออกมาแล้วว่า มีความรุนแรง เกินกว่า การทำร้ายร่างกายกันตามปกติ ประกอบกับพฤติการณ์ต่างๆ แล้ว เช่น เคยมีเรื่องบาดหมางถึงเคยขู่ฆ่า เอาชีวิตกันมาก่อน แบบนี้ก็อาจชี้ได้ว่า มีเจตนาฆ่า ครับ
เช่นผู้ตายถูกแทงด้วยมีด ปอกผลไม้ ถึง 32 แผล แม้แผลที่จะทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิต มีแค่ 2 แผลเท่านั้น แต่ตามพฤติการณ์ และความรุนแรง ของบาดแผลแล้ว น่าเชื่อได้ว่า ผู้กระทำผิดมีเจตนาฆ่า
หรือผู้ตาย ไม่มีบาดแผลฉกรรจ์ จากภายนอก แต่จากการตรวจพิสูจน์ศพ พบว่า ตับฉีกขาด มีรอยฟอกช้ำทั่วร่างกาย ฟันที่ปาก หัก 2 ซี่ กระดูกกรามร้าว เช่นนี้ผู้ตาย น่าจะถูกทำร้ายด้วย การกระทำที่รุนแรง ผู้กระทำน่าจะมีเจตนา ฆ่า
เป็นอย่างไรบ้างครับ สำหรับเรื่องการดูเจตนา ว่าอย่างไร เป็นเจตนาฆ่า อย่างไรไม่ใช่เจตนาฆ่า เพราะหากเราไม่มีหลักในการวินิจฉัยแล้ว ผู้กระทำผิด ก็คงจะแก้ตัวอยู่ตลอดว่า ตนไม่มีเจตนาฆ่า เพราะหลักใหญ่ของกฎหมาย อาญานั้น ถือหลักที่ว่า "ไม่มีเจตนา ไม่ผิด" ครับ
ที่ผมเขียนมาทั้งหมดนี้ เป็นเพียงแนว ทางวินิจฉัย เบื้องต้นครับ เพราะอย่างไร ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่ละ คดีนั้น ย่อมซับซ้อนแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับผู้ใช้กฎหมาย จะวินิจฉัยกันไปตามมาตรฐานวิชาชีพของตนครับ เราฐานะชาวบ้านทั่วๆ ไป ก็รู้ไว้เป็นพื้นฐาน เวลานักกฎหมายพูดหรือข่าวที่ออกมาเราจะได้เข้าใจและรู้เรื่องกับเขาบ้าง อย่างกรณีวัยรุ่นรุมทำร้าย ชายพิการนั้น ถามว่าผู้กระทำผิดมีเจตนาฆ่าหรือเปล่า? แล้วถ้ามีเจตนาฆ่า แล้วมีการไตร่ตรอง ไว้ก่อนหรือเปล่า? อันนี้ผมไม่ขอก้าวล่วงครับ ปล่อยเป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมว่ากันไปครับ แต่ที่แน่ๆ กฎแห่งกรรม ยุติธรรมเสมอครับ พบกันใหม่บทความหน้าครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น